BLOG

รู้ก่อนสั่ง ‘กล่องกระดาษลูกฟูก’ เลือกยังไงให้เหมาะ?

ในยุคที่การขายสินค้าออนไลน์เฟื่องฟูแบบนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่เจ้าของกิจการไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์อย่าง กล่องกระดาษลูกฟูก ไม่ว่าจะใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือใช้สำหรับขนส่ง ที่นอกจากจะเป็นตัวช่วยนำส่งสินค้า และรักษาสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคหรือลูกค้าได้ปลอดภัยแล้ว ยังต้องสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกใช้งานกล่องกระดาษลูกฟูกจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของการใช้งานเพื่อความปลอดภัยของสินค้า รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ซึ่งกล่องกระดาษลูกฟูกนั้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำการเลือกกล่องกระดาษลูกฟูกให้ถูกประเภทกันแบบเข้าใจง่ายๆ กัน

กล่องกระดาษลูกฟูกที่ดีดูที่กระดาษ

ด้วยคุณสมบัติที่มี ความแข็งแรง ทนทาน ดูดซึมน้ำได้ น้ำหนักเบา และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กล่องกระดาษลูกฟูกจึงเป็นที่นิยมในการถูกใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ โดยที่ประเภทของกระดาษลูกฟูกที่ถูกนำมาใช้จะมีให้เลือกตั้งแต่ กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น (Single Facer Board), กระดาษลูกฟูก 3 ชั้น (Single Wall Board) และกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น (Double Wall Board) ทั้งนี้ยังต้องดูที่ลอนของกล่องกระดาษลูกฟูกด้วยซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

กล่องกระดาษลูกฟูก ลอน E

ลอนของกล่องกระดาษลูกฟูกชนิดนี้ถือเป็นลอนที่เล็กที่สุด โดยจะมีขนาดความหนาของลอนเพียงแค่ 0.15 เซนติเมตร ในส่วนของคุณสมบัติจะสามารถรองรับการพิมพ์ได้ดีที่สุดด้วยขนาดของลอนที่บางกว่าหากเทียบกับชนิดอื่นๆ แต่จะรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 8 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกล่องไดคัทขนาดเล็ก หรือกล่องออฟเซ็ท ที่จะบรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักเบา และเน้นความสวยงามของกล่องเป็นต้น

 

กล่องกระดาษลูกฟูก ลอน B

ต่อมาเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกแบบ ลอน B โดยลอนของกระดาษลูกฟูกชนิดนี้จะมีความหนาอยู่ที่ 0.25 เซนติเมตร มีคุณสมบัติป้องกันการกระแทก และการต้านทานแรงทิ่มทะลุพอใช้ มีความง่ายในการพับ และหักงอ เหมาะสำหรับใช้งานบรรจุสิ่งของที่แตกหักได้ง่าย หรือสินค้าที่สามารถรับหนักได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ควรบรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักเกิน 10 กิโลกรัม

 

กล่องกระดาษลูกฟูก ลอน C

เป็นลอนที่นิยมใช้ที่สุด และมีขนาดใหญ่สุด มีคุณสมบัติทั้งความแข็งแรง และความยึดหยุ่นรวมกัน สามารถรับแรงกระแทกและการทิ่มทะลุได้ดีด้วยขนาดของลอนที่หนากว่าเมื่อเทียบกับลอนแบบอื่นๆ ก่อนหน้า โดยมีความหนาของลอนอยู่ที่ 0.35 เซนติเมตร และถึงจะมีความแข็งแรงที่มากกว่าลอน E และ B ในเรื่องของการรองรับน้ำหนักยังอยู่ที่ไม่เกิน 10 กิโลกรัมเช่นเดียวกันกับลอน B

 

กล่องกระดาษลูกฟูก ลอน BC

มาถึงลอนแบบสุดท้ายนั่นก็คือลอน BC หรือกล่องกระดาษลูกฟูกแบบ 5 ชั้น (Double Wall Board) คือกล่องที่มีลอนลูกฟูกอยู่2ลอน แต่จะประกอบไปด้วยแผ่นกระดาษ 5 ส่วน คือ ส่วนที 1 กระดาษส่วนผิวด้านหน้า ส่วนที 2 ลอนลูกฟูก ส่วนที 3 กระดาษส่วนตรงกลาง เป็นการกั้นระหว่างลอนลูกฟูกกับลอนลูก ส่วนที 4 ลอนลูกฟูก ส่วนที 5 คือส่วนที่เป็นกระดาษผิวด้านในสุด มีความแข็งแรงมากสุดสามารถรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป เหมาะสำหรับสินค้าทีมีน้ำหนักมาก ขนย้ายไกลๆ จำพวกส่งออกที่ต้องวางทับกันจำนวนมาก

 

เลือกกล่องกระดาษลูกฟูกให้เหมาะด้วย 3 ขั้นตอน

1.ขนาดของกล่องกระดาษลูกฟูก – ควรเลือกขนาดของกล่องให้พอดีกับสินค้าเพื่อความปลอดภัยจากการกระทบกระแทกจนเกิดการแตกหักเสียหาย และยังช่วยประหยัดต้นทุนทั้งราคากล่อง และค่าบริการขนส่ง

2.เลือกกล่องกระดาษลูกฟูกตามลักษณะของสินค้า – สินค้าแต่ละชิ้นมีความต่างกันออกไป ทั้งน้ำหนัก ขนาด รูปทรง และความเปราะบาง เช่น ของที่แตกหักง่าย หรือพัสดุที่มีน้ำหนักควรใช้กล่องลูกฟูกแบบหนาสามารถรับน้ำหนัก และแรงกดทับของพัสดุได้ดี เป็นต้น

3.กล่องกระดาษลูกฟูกที่ดีต้องเลือกจากแหล่งที่ไว้ใจได้ – เลือกซื้อจากบริษัทที่ได้รับความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน สามารถเช็คเครดิตได้ และผ่านการทดสอบตามกระบวนการต่างๆ จะช่วยให้มั่นใจในเรื่องของคุณภาพของกล่องกระดาษลูกฟูกได้มากขึ้น

 

สุดท้ายแล้วเราหวังว่าจากคำอธิบายทั้งหมดข้างต้นในเรื่องของกล่องกระดาษลูกฟูกนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษลูกฟูกสำหรับบรรจุ และขนส่งสินค้า ให้สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นนะครับ และหากใครที่ยังมีข้อสงสัย ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ >>www.example.com<< ได้เลยครับ